"นี่คือข้อแรกที่จะต้องรู้ ก่อนคิดที่จะต่อเติมบ้าน" ส่วนปัจจัยต่อมาที่จะต้องนำมาพิจารณาก็คือ รูปแบบของการต่อเติม ดูว่า สอดคล้องหรือขัดแย้งกับบ้านเดิมหรือไม่ บ้านที่ต่อเติมให้กลมกลืนกับบ้านหลังเดิม จะให้ผลดีมากกว่า เพราะจะทำให้บ้านนั้นมีกำลังมากขึ้น จากบ้านหลังเล็กกลายเป็นบ้านหลังใหญ่ แต่ถ้าต่อเติมในลักษณะขัดแย้งกัน เท่ากับเป็นทำลายบ้านหลังเดิมเลยทีเดียว
การต่อเติมบ้าน ต้องพิจารณาด้วยว่า ส่วนที่ต่อเติมใหม่จะทำเป็นห้องอะไร มีความสำคัญหรือไม่ เช่น ทำเป็นห้องนอนเจ้าของบ้าน แบบนี้จะต้องพิจารณาให้ดี เพราะถือว่า ย้ายประธาน (เจ้าของ) ไปอยู่ในส่วนใหม่ ซึ่งโดยปกติแล้ว ถ้าห้องนอนเดิมดีอยู่แล้ว ก็ไม่ควรย้าย โอกาสที่จะเสียมีมากกว่าได้ ผังบ้านใหม่ หลังจากต่อเติม ก็มีส่วนสำคัญอย่างมากที่จะต้องนำมาพิจารณา เพราะตำแหน่งต่างๆจากเดิมจะเปลี่ยนไป เช่น เดิมห้องส้วมอยู่ริมบ้าน เมื่อต่อเติมใหม่ ห้องส้วมกลายมาอยู่ตรงกลางบ้าน เป็นต้น
ปัญหาของการต่อเติมที่ผมเห็นว่าเป็นเรื่องใหญ่ ก็คือ การต่อเติมในลักษณะที่ปิดกั้นลม หลักฮวงจุ้ยสอนในเรื่องของลมโดยเฉพาะ (ฮวง = ลม) จนมีคำกล่าวว่า บ้านที่ไม่มีลมพัดเข้าบ้าน บ้านนั้นถือว่าฮวงจุ้ยเสีย ที่ผมพบบ่อยมาก ก็คือบ้านประเภททาวน์เฮ้าส์ที่มักจะต่อเติมด้านหลังบ้านจนเต็มไปชิดกับกำแพงรั้ว ก่อสภาพอุดตัน ไม่มีลมพัดผ่านได้เลย
ถ้าจำเป็นต้องต่อเติมจริงๆ ผมจะแนะนำให้ต่อแบบโปร่งมากกว่าจะต่อแบบทึบ เพราะอย่างน้อยก็ให้ลมได้พัดผ่านบ้าง ยิ่งหลังบ้านมักจะทำเป็นครัว ที่ต้องการอากาศถ่ายเทที่ดี จึงไม่ควรต่อแบบทึบ บางกรณีอาจดูจากทิศทางลม ถ้าการต่อเติมอยู่ทางทิศใต้ หรือตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นทางลมใหญ่ ไม่ควรต่อเติมในลักษณะปิดกั้นทางลมที่จะเข้าไปในบ้าน หลายคนมักจะทำโดยไม่ดูทิศ แล้วมาบ่นภายหลังว่า ตอนไม่ต่อเติมบ้านอยู่แล้วสบาย แต่พอต่อเติม กลับรู้สึกอึดอัดไม่สบายเหมือนเดิม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น